Showing 1–12 of 123 results

หินอ่อน

เรานำเสนอหินอ่อน คุณภาพพรีเมียม หลากหลายชนิด ซึ่งคัดสรรมาจากแหล่งที่ดีที่สุดทั่วโลก เชิญสัมผัสลวดลาย และสีสันอันเป็นเอกลักษณ์ ตั้งแต่หินคาร์ราราสีขาวคลาสสิก ไปจนถึงชนิดหายาก เหมาะสำหรับยกระดับทุกพื้นที่ ด้วยความสง่างามเหนือกาลเวลา และความงามตามธรรมชาติ คอลเลกชันที่ครอบคลุมของเรา ตอบสนองความต้องการด้านการออกแบบ และข้อกำหนดของโครงการที่แตกต่างกัน เพื่อให้มั่นใจว่า คุณจะได้พบกับหินที่สมบูรณ์แบบ สำหรับงานสถาปัตยกรรม หรือการตกแต่งภายในของคุณ


หินอ่อน เป็นวัสดุธรรมชาติ ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ในการตกแต่ง และก่อสร้าง ด้วยลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ และความงามอันหรูหรา ทำให้หินอ่อน สามารถยกระดับความสวยงามให้กับพื้นที่ต่างๆ ได้อย่างน่าทัศจรรย์ ไม่ว่าจะเป็นบ้านพักอาศัย อาคารสำนักงาน หรือสถานที่สำคัญต่างๆ ความงามข้ามกาลเวลาของหินอ่อน ทำให้ยังคงเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับผู้ที่ต้องการความสง่างาม และความทนทาน

หินอ่อนคืออะไร

หินอ่อน (Marble) คือหินแปร (Metamorphic Rock) ชนิดหนึ่งที่เกิดจากการแปรสภาพของหินปูน (Limestone) หรือโดโลไมต์ (Dolomite) ภายใต้ความร้อน และความดันสูงใต้พื้นโลก กระบวนการแปรสภาพนี้ ทำให้แร่แคลไซต์ (Calcite) ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักในหินปูน ตกผลึกใหม่ และเรียงตัวกันจนเกิดเป็นเนื้อหิน ที่มีความหนาแน่น และมีลวดลายสวยงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ความหลากหลายของสี และลวดลายในหินอ่อนเกิดจากแร่ธาตุต่างๆ ที่ปะปนอยู่ในหินปูนดั้งเดิม ก่อนการแปรสภาพ

หินอ่อน มีความหลากหลายสูงมาก การจำแนกประเภทจึงทำได้หลายวิธี แต่วิธีที่นิยมใช้กันทั่วไป คือ การแบ่งตามลักษณะทางกายภาพ เช่น

  1. แบ่งตามสี : เป็นวิธีที่เข้าใจง่ายที่สุด เช่น หินอ่อนสีขาว (เช่น คาร์รารา, คาลาคัตตา), หินอ่อนสีดำ (เช่น เนโร มาร์ควินา), หินอ่อนสีครีม (เช่น ครีมมาเฟิล), หินอ่อนสีเขียว, หินอ่อนสีชมพู, หินอ่อนสีเทา เป็นต้น
  2. แบ่งตามแหล่งกำเนิด : หินอ่อนจากแต่ละภูมิภาค หรือประเทศ มักมีลักษณะเฉพาะตัว เช่น หินอ่อนอิตาลี (ขึ้นชื่อเรื่องหินอ่อนขาว), หินอ่อนสเปน, หินอ่อนกรีซ, หินอ่อนตุรกี
  3. แบ่งตามลวดลาย : ลักษณะลวดลายก็ใช้จำแนกได้ เช่น ลายเส้น (Veining) ที่เห็นเป็นริ้ว, ลายดอก (Brecciated) ที่เห็นเป็นเศษหินแตกๆ เชื่อมกัน, ลายเมฆ (Cloudy) ที่ดูฟุ้งๆ
  4. แบ่งตามส่วนประกอบแร่ : แม้ส่วนใหญ่เป็นแคลไซต์ แต่อาจมีหินอ่อนที่เกิดจากโดโลไมต์ (Dolomitic Marble) หรือมีแร่เซอร์เพนทีนปน (Serpentine Marble) ซึ่งให้สีเขียว และอาจมีคุณสมบัติต่างกันเล็กน้อย

หินอ่อน มีข้อดีหลายประการที่ทำให้เป็นที่นิยม ได้แก่

  • ความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ : ลวดลาย และสีสันตามธรรมชาติ ทำให้หินอ่อนแต่ละแผ่นมีความพิเศษ ไม่ซ้ำใคร สร้างความหรูหราสง่างามให้กับพื้นที่
  • เพิ่มมูลค่าให้กับอสังหาริมทรัพย์ : การใช้หินอ่อนในการตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นพื้น ผนัง หรือเคาน์เตอร์ สามารถช่วยเพิ่มมูลค่า และความน่าสนใจให้กับบ้าน หรืออาคารได้
  • ความทนทาน : แม้จะต้องดูแลเป็นพิเศษ แต่โดยธรรมชาติแล้วหินอ่อน มีความแข็งแรงทนทานต่อการใช้งานในระดับหนึ่ง สามารถใช้งานได้ยาวนาน หากดูแลรักษาอย่างถูกวิธี
  • ให้ความรู้สึกเย็นสบาย : หินอ่อนมีคุณสมบัติในการนำความร้อนต่ำ และคายความร้อนได้ดี จึงทำให้พื้นผิวเย็นสบาย เมื่อสัมผัส เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นอย่างประเทศไทย
  • ความหลากหลาย : มีสี ลวดลาย และช่วงราคาให้เลือกหลากหลาย สามารถเลือกให้เข้ากับสไตล์การออกแบบ และงบประมาณได้

การเลือกซื้อหินอ่อนควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้

  1. วัตถุประสงค์ และพื้นที่ใช้งาน : พิจารณาว่าจะนำหินอ่อนไปใช้ทำอะไร (ปูพื้น, กรุผนัง, ท็อปเคาน์เตอร์) และใช้ในพื้นที่ใด (ห้องน้ำ, ห้องครัว, ห้องนั่งเล่น) เพราะแต่ละพื้นที่ มีความเสี่ยงต่อรอยขีดข่วน คราบสกปรก และความชื้นต่างกัน หินอ่อนบางประเภทอาจไม่เหมาะกับพื้นที่ใช้งานหนัก หรือสัมผัสกรดด่างบ่อยๆ
  2. งบประมาณ : กำหนดงบประมาณที่ชัดเจน เนื่องจากหินอ่อนมีหลายเกรด และราคาแตกต่างกันมาก ตั้งแต่ราคาเข้าถึงได้ไปจนถึงราคาสูงลิ่ว ขึ้นอยู่กับประเภท แหล่งกำเนิด และความหายาก
  3. สี และลวดลาย : เลือกสี และลวดลายที่สอดคล้องกับสไตล์การตกแต่งโดยรวม ควรขอดูแผ่นหินจริงขนาดใหญ่ (Slab) เพื่อดูลวดลาย และความต่อเนื่องของลาย หากต้องใช้หลายแผ่นต่อกัน เพราะหินธรรมชาติแต่ละแผ่นลายจะไม่เหมือนกันเป๊ะ
  4. ตรวจสอบคุณภาพ : ตรวจสอบแผ่นหินอย่างละเอียด เพื่อหารอยร้าว รอยบิ่น หรือตำหนิอื่นๆ ความหนาของแผ่นควรสม่ำเสมอกัน
  5. ประเภทการขัดผิว : เลือกลักษณะพื้นผิวที่ต้องการ เช่น ผิวขัดมัน (Polished) ให้ความเงางาม หรูหรา แต่ค่อนข้างลื่นเมื่อเปียก และเห็นรอยขีดข่วนง่าย หรือผิวขัดด้าน (Honed) ที่ดูนุ่มนวลกว่า ดูแลรักษาง่ายกว่า และลดความเสี่ยงในการลื่น
  6. เลือกผู้จำหน่ายที่น่าเชื่อถือ : ซื้อจากร้านค้าหรือโรงงานที่มีชื่อเสียง มีความเชี่ยวชาญ สามารถให้คำแนะนำที่ดี และมีบริการหลังการขาย

การติดตั้ง

  • ควรติดตั้งโดยช่างผู้ชำนาญการ และมีประสบการณ์โดยเฉพาะ เพื่อให้ได้มาตรฐาน ป้องกันความเสียหาย และให้รอยต่อระหว่างแผ่นสวยงาม
  • พื้นผิวที่จะติดตั้ง (Substrate) ต้องเรียบ ได้ระดับ แข็งแรง และสะอาด
  • หลังติดตั้งควรมีการยาแนวรอยต่อให้เรียบร้อย และอาจต้องทิ้งไว้ให้ปูน หรือกาวเซ็ตตัว ตามระยะเวลาที่กำหนดก่อนใช้งาน

การดูแลรักษา

  • การเคลือบผิว (Sealing) : หินอ่อนเป็นหินที่มีรูพรุนตามธรรมชาติ ควรเคลือบน้ำยากันซึม (Sealer) คุณภาพดีทันทีหลังติดตั้ง และเคลือบซ้ำเป็นระยะ (เช่น ทุก 6 เดือน - 1 ปี หรือตามคำแนะนำของผู้ผลิตน้ำยา) เพื่อช่วยป้องกันคราบสกปรก และของเหลวซึมเข้าเนื้อหิน
  • การทำความสะอาดประจำวัน : ใช้ไม้กวาดขนอ่อน ไม้ม็อบดันฝุ่น หรือผ้าชุบน้ำสะอาดบิดหมาดเช็ด หากต้องการใช้น้ำยา ควรเลือกใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีค่า pH เป็นกลาง (Neutral Cleaner) ที่ออกแบบมาสำหรับหินธรรมชาติโดยเฉพาะ
  • หลีกเลี่ยงสารเคมีรุนแรง : ห้ามใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์เป็นกรด (เช่น น้ำส้มสายชู, น้ำมะนาว, น้ำยาล้างห้องน้ำทั่วไป) หรือด่างจัด รวมถึงผงขัด หรือใยขัดที่หยาบ เพราะจะทำลายพื้นผิวหินอ่อน ทำให้เกิดรอยด่าง หรือรอยขีดข่วนได้
  • ป้องกันรอยขีดข่วน และคราบ : ใช้ที่รองแก้ว จานรองกระถาง หรือแผ่นรองตัดบนพื้นผิวหินอ่อน วางพรมเช็ดเท้าบริเวณทางเข้า เพื่อดักจับทราย และสิ่งสกปรกที่อาจขูดขีดพื้นผิว
  • เช็ดคราบทันที : หากมีของเหลวหกใส่ โดยเฉพาะสารที่มีสี (เช่น ไวน์, กาแฟ) หรือมีความเป็นกรด/ด่าง (เช่น น้ำอัดลม, น้ำผลไม้) ให้รีบซับ หรือเช็ดทำความสะอาดทันทีด้วยผ้าสะอาด และน้ำเปล่า เพื่อป้องกันคราบฝังแน่น หรือการกัดกร่อนพื้นผิว